กิจกรรมการพัฒนาแบรนด์ไทยสู่สากลด้วย Digital Platform
กองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ภูมิใจเสนอหลักสูตร
The S-curve “Digital Branding For Crisis”
หลักสูตรการสร้างแบรนด์บนโลกดิจิทัลในช่วงวิกฤติ
รับสมัคร เมษายน – พฤษภาคม 2563
อบรม มิถุนายน – กรกฎาคม 2563
(ช่วงเวลาดำเนินโครงการและรูปแบบการอบรม อาจจะมีการปรับเปลี่ยน ตามสถานการณ์ COVID-19)
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพ SMEs ด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งมีจุดประสงค์ในการสร้างความเข้มแข็งให้ SMEs และพัฒนาแบรนด์ไทยสู่สากลด้วย Digital Platform กลับมาอีกครั้งในปี 2563 นี้ กับหัวข้อที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องรู้ กับหลักสูตร “Digital Branding for Crisis” ที่จะช่วยผู้ประกอบการ SMEs ทุกคนให้สามารถสร้างแบรนด์ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพื่อคุณจะไม่เพียงแค่อยู่รอดผ่านช่วงวิกฤติ แต่ยังสามารถเติบโตก้าวไกลได้มากขึ้นหลังจากนี้
ประกาศผลผู้ได้รับเลือกเข้าร่วมโครงการ
The S-curve Digital Branding for Crisis
หลักสูตร DIGTAL BRANDING FOR CRISIS
เป็นหลักสูตรที่จะทำให้คุณรู้จัก "ปฎิวัติ" ความคิดของตัวเอง และพลิกรูปแบบการทำธุรกิจจากเดิมไปสู่เป็นสิ่งใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ที่ผู้ประกอบการ SMEs ทุกคนจะต้องรู้จักการวางแนวทางแก้ไข ทั้งกลยุทธ์ รูปแบบและทิศทางของธุรกิจ อย่างเร่งด่วนที่สุด เพราะกลไกการตลาดต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างมากมาย ซึ่งจะมีผลต่อความอยู่รอดของ Brand ของคุณโดยตรง
นี่คือหลักสูตรที่ "ออกแบบ" มาเพื่อคุณในสถานการณ์เช่นนี้โดยเฉพาะ โดยมีผู้เชี่ยวชาญ (Executive Coach) เฉพาะด้านมาช่วยวาง Landscape ของธุรกิจและกลยุทธของ Brand ในทุกมิติ พร้อมทั้งให้คำปรึกษาแก้ปัญหาจริงเพื่อปรับปรุงกิจการได้อย่างตรงจุด เพื่อให้คุณ "ชัดเจน" และมีมุมมองใหม่ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้!
เตฌิณ โสมคำ (โค้ชโรเจอร์)
SESSION SPEAKERS
เตรียมพบกับเหล่าวิทยากรผู้คร่ำหวอดในวงการตัวจริง ด้านการโฆษณา การสร้างแบรนด์ และการขยายธุรกิจ
ที่จะมาช่วยกันปั้นแบรนด์ของคุณให้พร้อมที่จะยืนหยัดมั่นคงและเติบโตขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาวิกฤตินี้ได้
วิเชียร ฤกษ์ไพศาล
Founder, Genie Record
นนทวัฒน์ เจริญชาศรี
Founder & Managing Director, The Others Co.,LTD
ชนินทร์ เย็นสุดใจ
Venture Capital
พรรษพล ลิมปิศิริสันต์
Founder & Chief Creative Officer / MONDAY
วรวุฒิ อุ่นใจ
COL (Office Mate)
วิบูลย์ ลีภักดิ์ปรีดา
Founder & Chief Creative Officer / MONDAY
เศรษฐพงศ์ ผดุงพิสุทธิ์
Gnosis Advisory
ฐิริญะพงศ์ อัศวดีกูล
Founder บริษัท ร่วมสร้างคอนซัลติ้ง
พร้อมทั้งแขกรับเชิญเพิ่มเติมในแต่ละชั่วโมงอบรมที่จะมาผลัดเปลี่ยนมาแบ่งปันประสบการณ์ที่ไม่สามารถจะหาฟังได้จากที่ไหนง่ายๆ
*วิทยากรอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
TESTIMONIAL
เสียงยืนยันจากผู้ที่เคยเข้าหลักสูตร S-curve Digital Branding ภายใต้โครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในปีก่อนๆ มาฟังกันว่ารุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จทุกคนได้พูดถึงหลักสูตรนี้ไว้อย่างไรกันบ้าง
อบรมฟรี!* รับเพียง 35 คนเท่านั้น!
หลักสูตรนี้ เหมาะสำหรับ
- ผู้ประกอบการ SMEs ทุกประเภท ที่มีแบรนด์ของตนเอง และต้องการพัฒนาแบรนด์ให้มั่นคง แข็งแรง และเติบโตขึ้นได้ ท่ามกลางช่วงเวลาที่วิกฤติ
- ผู้ประกอบการ SMEs ทีเชื่อในพลังของสื่อ Digital และ Social Media
- ผู้ประกอบการ SMEs ที่พร้อมจะเปิดรับ เรียนรู้ และออกนอกกรอบของตัวเองเพื่อพาแบรนด์ให้เติบโตขึ้นไปอย่างก้าวกระโดด
*มีเงินประกันการเข้าร่วมโครงการ 5,000 บาท ผู้เข้าอบรมจะได้รับคืนเมื่อเข้าร่วมโครงการครบถ้วนตามเงื่อนไข (กรุณาอ่านรายละเอียดด้านล่าง)
เนื้อหาและรูปแบบของหลักสูตร
(อาจมีการปรับเปลี่ยนวิทยากรและหัวข้อตามสถานการณ์ที่จำเป็น)
เจาะลึกทุกองค์ประกอบของการสร้างแบรนด์ ทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติ ภายใต้บริบทของการใช้สื่อดิจิทัลและ Social Media เป็นเครื่องมือหลักในกระบวนการคิดงานและวางกลยุทธ์ โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในแวดวงการตลาด โฆษณา และการสร้างแบรนด์ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์กับเพื่อนๆ และรุ่นพี่ พร้อมรับคำปรึกษาในการแก้ปัญหาจริงเพื่อปรับปรุงกิจการได้อย่างตรงจุด
ภาคเช้า : ปฐมนิเทศน์หลักสูตร ทำความรู้จักกัน
ภาคบ่าย : WHEN HIT THE CORNER – คุณวรวุฒิ อุ่นใจ
ทฤษฎีจากตำรา ฝ่าวิกฤติ เจ้าของแบรนด์จะทำอย่างไร เมื่อสถานการณ์รอบข้างเหมือนว่ากำลังจะบีบคุณให้จนมุม ฟังประสบการณ์และพูดคุยกับวิทยากร คุณวรวุฒิ อุ่นใจ ผู้สร้างตัวจาก OfficeMate จนยืนหยัดบนโลกธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง
ภาคเช้า : CRISIS LEADERSHIP – ผู้นำที่แข็งแกร่ง นำพาให้พ้นภัย โดย คุณชนินทร์ เย็นสุดใจ
ภาคบ่าย : Landscape The Problem – REBRANDING – Workshop โดย คุณเตฌิณ โสมคำ
เข้าใจภูมิทัศน์ของวิกฤติ ในที่ๆ ดูเหมือนทุกอย่างกำลังติดลบ แต่ที่นั่นอาจจะเป็นที่ๆ คุณจะกลับมามองเห็นแบรนด์ตัวเองในภาพใหม่อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งจะนำไปสู่การปรับตัวและปรับตำแหน่งของแบรนด์คุณ ที่จะทำให้ไม่เพียงแค่รอดจากวิกฤติ แต่จะมีความพร้อมมากยิ่งกว่าเดิมเมื่อช่วงเวลานี้ได้ผ่านไป
ภาคเช้า : BRAND STRATEGY- GOLD ANALYSIS โดย คุณศศี วัฒนพานิช
การวางกลยุทธ์และการวิเคราะห์เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์ เพื่อใช้ต่อสู้กับคู่แข่งในตลาดและรักษากลุ่มเป้าของแบรนด์ให้อยู่กับแบรนด์ ร่วมแบ่งปันการวางกลยุทธ์ที่เจ้าของธุรกิจควรทราบ
ภาคบ่าย : BRAND STRATEGY – Workshop โดย คุณเตฌิณ โสมคำ
วิเคราะห์แบรนด์ของผู้เข้าร่วมโครงการว่ามีความชัดเจนมากน้อยแค่ไหนบนโลกออนไลน์ และมีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขปรับปรุง เพื่อพลิกโฉมให้แบรนด์มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ภาคเช้า : BRAND MANAGEMENT – Tactical Goal โดย คุณฐิริญะพงศ์ อัศวดีกูล
การจัดการบริหารทุกองค์ประกอบของธุรกิจเพื่อเชื่อมโยงส่วนต่าง ๆ ของความเป็น
แบรนด์เข้าด้วยกัน ให้เกิดความเป็นเอกภาพ และทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารตัวตนออกมาได้ด้วยตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในช่องทางหรือสื่อไหน ๆ
ภาคบ่าย BRAND ARCHITECTURE – Workshop โดย คุณเตฌิณ โสมคำ
ร่วมวิเคราะห์แบรนด์ของผู้เข้าร่วมโครงการว่ามีความชัดเจนมากน้อยแค่ไหนบนโลกออนไลน์ และมีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขปรับปรุง
ภาคเช้า : FINANCIAL MANAGEMENT FOR CRISIS โดย คุณเศรษฐพงศ์ ผดุงพิสุทธิ์
ภาคบ่าย : BRAND CRISIS COMMUNICATION โดย คุณพรรษพล ลิมปิศิริสันต์ และ คุณวิบูลย์ ลีภักดิ์ปรีดา
ภาคเช้า : BRAND DESIGN – REDESIGNING โดย คุณนนทวัฒน์ เจริญชาศรี
วิกฤติจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่อาจจะต้องเกิดขึ้นคือการที่เจ้าของธุรกิจจะต้องกลับมาออกแบบแบรนด์ของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้สามารถอยู่รอดผ่านวิกฤติไปได้
ภาคบ่าย : DIGITAL ADS – FB AD STRATEGY
ภาคเช้า : บรรยายพิเศษ “KEY OF MANAGEMENT” คน ขับเคลื่อน คน โดย คุณวิเชียร ฤกษ์ไพศาล การรับมือกับวิกฤติไม่ใช่แค่การบริหารจัดการวิกฤติที่อยู่ภายนอก แต่บ่อยครั้งต้องรู้ด้วยว่าบางครั้งวิกฤตินั้นก็อยู่ในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการคน เพื่อที่จะสามารถฟันฝ่าวิกฤตินี้ไปได้!
ภาคบ่าย : Networking กิจกรรมพัฒนาเครือข่ายเชื่อมโยงผู้ประกอบการ SMEs (Networking) เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ของผู้เข้าร่วมอบรมให้รู้จักเพิ่มมากขึ้น และเพื่อเชื่อมโยงธุรกิจของผู้ประกอบการให้สอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น
ปิดท้ายโครงการด้วยการสัมมนาเผยแพร่องค์ความรู้ ฟังเรื่องราวความสำเร็จ Success Story จากเพื่อนร่วมโครงการ พร้อมรับประกาศนียบัตรจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
*หัวข้อและวิทยากรอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ
วันเวลาอบรม
ครั้งที่ 1 : วันศุกร์ที่ 19 มิ.ย.
ครั้งที่ 2 : วันศุกร์ที่ 26 มิ.ย.
ครั้งที่ 3 : วันศุกร์ที่ 3 ก.ค.
ครั้งที่ 4 : วันศุกร์ที่ 10 ก.ค.
ครั้งที่ 5 : วันศุกร์ที่ 17 ก.ค.
ครั้งที่ 6 : วันศุกร์ที่ 24 ก.ค.
ครั้งที่ 7 (Networking) : วันศุกร์ที่ 31 ก.ค.
ครั้งที่ 8 (สัมมนาปิดโครงการ) : วันศุกร์ที่ 21 ส.ค.
*อบรมเวลา 9:30 น. – 16:30 น. ทุกวัน*
นอกเหนือจากการอบรมรวมแล้ว ยังมีการให้คำปรึกษากลุ่มย่อยเชิงลึกอีก 2 ครั้ง ซึ่งจะกำหนดวันหลังจากเริ่มโครงการ
สถานที่อบรม
Trinity Academy จามจุรีสแควร์
หมายเหตุ : วันเวลา, สถานที่ และรูปแบบการอบรมอาจมีการเปลี่ยนแปลง
ตามสถานการณ์และมาตรการป้องกันโรค COVID-19 ที่กำหนดโดยรัฐบาล
Registration | สมัครเข้าร่วมโครงการ
กำหนดการและขั้นตอนในการสมัคร
กรอกแบบฟอร์ม
- ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครตามรายละเอียดด้านล่าง
- คลิกที่ปุ่มข้างล่างนี้เพื่อกรอกแบบฟอร์มสมัครตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. – 29 พ.ค. 2563
ส่งคลิปแนะนำตัว
- บันทึกคลิปวีดีโอแนะนำตัวเองและธุรกิจความยาวไม่เกิน 3 นาที
- อัพโหลดวีดีโอขึ้น Youtube, Google Drive หรือ Dropbox
- ส่งลิงค์วีดีโอคลิปมาที่ Line: @scurve.co หรือ Email : info@scurve.co ภายใน 29 พ.ค. 63
- รอฟังผลพิจารณาเพื่อนัดสัมภาษณ์
สอบสัมภาษณ์
- สอบสัมภาษณ์กับกรรมการคัดเลือก (สามารถเลือกสัมภาษณ์สด หรือออนไลน์)
- รอฟังผลการคัดเลือก
- ยื่นเอกสารต่างๆ เพื่อยืนยันการเข้าร่วมโครงการ
กำหนดวันรับสมัคร, สอบสัมภาษณ์ และประกาศผล หลักสูตร Digital Branding for Crisis
เปิดรับสมัคร วันที่ 11 เม.ย. 2563 – 29 พ.ค.2563
ประกาศผลเพื่อเข้าสัมภาษณ์ : วันอังคารที่ 2 มิ.ย. 2563
สัมภาษณ์ผู้สมัคร : วันจันทร์ที่ 8 มิ.ย. 2563
ประกาศผลผู้ได้รับคัดเลือกเข้าอบรม Digital Branding for Crisis : วันพุธที่ 10 มิ.ย. 2563
*การตัดสินคัดเลือกของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด
เงื่อนไขและข้อตกลงในการเข้าร่วมโครงการและคำถามที่พบบ่อย
(กรุณาอ่านอย่างละเอียดก่อนสมัคร)
คุณสมบัติผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ
เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs และผู้ให้บริการด้านไอที โดยเฉพาะ ดังนั้นผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการนั้นจำเป็นต้องมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการดังต่อไปนี้คือ
- เป็นผู้ประกอบการหรือตัวแทนธุรกิจประเภท SMEs ที่มีกิจการดำเนินอยู่แล้วจริง และมีสถานประกอบการชัดเจน สามารถตรวจสอบและติดต่อได้ (ต้องสามารถแสดงหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้หลังจากได้รับคัดเลือก ได้แก่ หนังสือรับรองบริษัท, หนังสือจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน หรือทะเบียนพาณิชย์และบัตรประจำตัวประชาชน)
- เป็นเจ้าของธุรกิจหรือทายาทธุรกิจ ซึ่งสามารถมีสิทธิ์ในการตัดสินใจโดยตรงเกี่ยวกับธุรกิจ การทำการตลาดรวมถึงการกำหนดงบประมาณในการประชาสัมพันธ์ของธุรกิจนั้นๆ
- ธุรกิจหนึ่งแห่งสามารถส่งตัวแทนร่วมโครงการได้ 1 คน และมีสิทธิ์ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการเพียง 1 รุ่นเท่านั้น
- ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องสามารถเข้าร่วมรายการด้วยตัวเองได้ครบตามวันเวลาที่ได้รับรายละเอียดไว้ล่วงหน้า
- ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องมีพื้นฐานความเข้าใจในการใช้งาน Social Media อยู่ในระดับที่ดี และธุรกิจที่จะนำมาสมัครเข้าร่วมโครงการ ควรจะมีการเริ่มต้นใช้งาน Social Media อยู่แล้ว
- ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องยินดีให้ความร่วมมือในการทำงานต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากวิทยากรและโค้ช ตามวัตถุประสงค์ของการอบรมในแต่ละครั้ง และต้องมีความพร้อมในการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการพูดคุย ให้คำแนะนำ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับวิทยากรและผู้เข้าร่วมโครงการท่านอื่นภายในชั้นอบรม
- ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องส่งเอกสารและกรอกข้อมูลการสมัครให้ครบถ้วน รวมทั้งยินดีเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่จำเป็นกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อประโยชน์ในการประเมินผลโครงการทั้งก่อน, ระหว่าง และหลังเสร็จสิ้นการเข้าร่วมโครงการ
- ผู้เข้าร่วมโครงการต้องมีความพร้อมในการเผยแพร่ผลการอบรมในกรณีที่เป็น Success Case เพื่อการประชาสัมพันธ์และเป็นต้นแบบให้กับผู้ประกอบการ SMEs และผู้ให้บริการด้านไอที
ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นในการเข้าร่วมอบรมตลอดทั้งโครงการ แต่จะมีการวางเงินการประกันการเข้าร่วมโครงการจำนวน 5,000 บาท ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวนในระยะเวลาไม่เกิน 4 เดือน หลังจากวันอบรมวันสุดท้ายของโครงการ ตามเงื่อนไขต่อไปนี้คือ
- ผู้เข้าร่วมโครงการได้ร่วมรายการอบรมต่างๆ ของโครงการไม่น้อยกว่า 80% ของจำนวนชั่วโมงทั้งหมด (ขาดได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง)
- ผู้เข้าร่วมโครงการได้ส่งหลักฐานต่างๆ ในการสมัครอย่างครบถ้วนถูกต้อง
- ผู้เข้าร่วมโครงการให้ความร่วมมือในการประเมินผลการจัดโครงการ โดยการตอบแบบสอบถามจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมอย่างครบถ้วนทุกแบบฟอร์มทั้งก่อน, ระหว่าง และหลังจากการเข้าร่วมโครงการ พร้อมทั้งเขียนเล่าประสบการณ์ ผลสำเร็จจากการนำกลยุทธ์ Social Media ซึ่งได้เรียนรู้จากการเข้าร่วมโครงการไปใช้จริงในกิจการ ให้กับทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
*ทั้งนี้ในขั้นตอนของการเรียนรู้ภาคปฏิบัติ แต่ละธุรกิจควรจะมีงบประมาณส่วนหนึ่งสำหรับการลงทุนทำการประชาสัมพันธ์ธุรกิจของตนเองผ่าน Social Media เพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้น
หลักฐานที่ต้องใช้ในการเข้าร่วมโครงการ
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้เข้าร่วมโครงการ ที่สามารถอ่านข้อมูลตัวหนังสือและตัวเลขบนบัตรทุกตัวได้อย่างชัดเจน
- สำเนาหลักฐานการจดทะเบียนธุรกิจ : ทะเบียนพาณิชย์, หนังสือจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท เท่านั้น
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร (ธ.กรุงเทพ ถ้ามี) สำหรับการโอนเงินประกันคืนหลังจากสิ้นสุดโครงการ (ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด)
หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ได้รับสิทธิ์เค้าร่วมโครงการ
การคัดเลือกผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการจะพิจารณาจากผู้ที่มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนตรงตามที่โครงการกำหนดไว้มากที่สุดเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงเป็นการพิจารณาในขั้นตอนต่อไป โดยคณะกรรมการดำเนินการโครงการ ร่วมกับวิทยากรเพื่อคัดเลือกธุรกิจที่มีแนวโน้มและศักยภาพในการใช้เครื่องมือดิจิทัล เข้ามาประยุกต์ได้จริงในเชิงปฎิบัติ โดยตัดสินจากข้อมูลที่ผู้ประกอบการกรอกเข้ามาในใบสมัครและคลิปวีดีโอแนะนำตัว และอาจไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงลำดับก่อนหลังในการลงทะเบียนของผู้สมัคร ซึ่งจากการคัดเลือกผู้ได้รับสิทธิ์ในปีที่ผ่านๆ มา อาจพอสรุปหลักเกณฑ์ในการพิจารณาผู้ได้รับสิทธิ์คร่าวๆ ได้ดังนี้คือ
- เป็นธุรกิจที่สามารถทำการตลาดออนไลน์ได้จริง มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนและมากพอที่จะทำการตลาดในวงกว้างได้
- ธุรกิจที่มีแบรนด์ของตัวเองจะมีโอกาสได้รับคัดเลือกสูงกว่าธุรกิจที่เป็นตัวแทนจำหน่าย เนื่องจากมีความคล่องตัวสูงกว่าในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือภาพลักษณ์ของสินค้าเพื่อการทำการตลาดบนโลกออนไลน์
- ธุรกิจที่เจ้าของกิจการมาเข้าร่วมเองจะมีโอกาสได้รับสิทธิ์สูงกว่าธุรกิจที่ส่งตัวแทนมา เนื่องจากจะเป็นผู้ที่สามารถตัดสินใจในนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในการอบรมได้ทันที ทำให้ง่ายต่อการประเมินผลโครงการ
- ความเคลื่อนไหวของ Social Media ที่ธุรกิจดำเนินอยู่แล้วจะเป็นสิ่งยืนยันที่ช่วยให้ผู้สมัครได้มีโอกาสรับเลือกมากขึ้น เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการต่อยอดให้กับผู้ประกอบการที่มีการใช้เครื่องมือดิจิทัลอยู่แล้วเป็นหลัก
- เป็นธุรกิจที่โค้ชมีประสบการณ์และความเข้าใจ สามารถมีส่วนแบ่งปันมุมมองและแนวคิดได้
แนวทางในการทำคลิปวีดีโอแนะนำตัว
แนวทางในการทำคลิปวีดีโอแนะนำตัว เนื้อหาในคลิปวีดีโอควรจะให้ข้อมูลต่างๆ ตามแนวทางต่อไปนี้
- ชื่อผู้สมัครและชื่อธุรกิจที่ต้องการจะสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยผู้สมัครจะต้องเป็นผู้พูดแนะนำด้วยตัวเองเท่านั้น
- อธิบายลักษณะและจุดเด่นของธุรกิจแบบคร่าวๆ (สามารถมีสินค้าตัวอย่างหรือรูปภาพประกอบการอธิบาย)
- ประสบการณ์ในการใช้เครื่องมือออนไลน์ และ Social Media สำหรับธุรกิจที่สมัคร
- ความคาดหวังและเหตุผลที่ต้องการจะเข้าร่วมโครงการนี้
- ผู้สมัครสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอได้เต็มที่
- วีดีโอไม่จำเป็นต้องบันทึกเป็นความละเอียดสูงหรือใช้โปรแกรมตัดต่อใดๆ สามารถใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายได้ คุณภาพและความละเอียดของวีดีโอไม่มีผลใดๆ ต่อการพิจารณา กรรมการจะดูจากเนื้อหาเป็นหลักเท่านั้น
- อัพโหลดวีดีโอขึ้น Youtube, Google Drive หรือ Dropbox เท่านั้น
- ส่งลิงค์วีดีโอคลิปมาที่ Line : @scurve.co หรือ Email : info@scurve.co ภายใน 29 พ.ค. 63
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อเรา
กิจกรรมพัฒนาศักยภาพทางการตลาดด้วย Social Media สำหรับ SMEs และผู้ให้บริการด้านไอที โครงการพัฒนาศักยภาพ SMEs ด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัล
โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม
อีเมล์ : info@scurve.co โทร : 097-204-9917